ความพร้อมของครูในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพังงา

Teachers’ Readiness in Organising Learning Regarding Core Curriculum in Basic Education B.E. 2551 in Educational Extended Schools under Phang-Nga Educational Service Area Office.

Name: อับดุลอาซีร์ ยาหมาย

ThaSH: การจัดการเรียน $x ครู

ThaSH: การศึกษาขั้นพื้นฐาน $x การจัดการเรียนรู้

ThaSH: การขยายโอกาสทางการศึกษา $x การจัดการ $z พังงา

Abstract: การวิจัยเรื่อง ความพร้อมของครูในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาพังงา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพร้อมของครู ในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ของโรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพังงา จำแนกตาม เพศ ระดับ การศึกษา ประสบการณ์การสอน ระดับชั้นที่ปฏิบัติการสอน และการเข้ารับการอบรมการใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่าง เป็นครูในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพังงา จำนวน 208 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับตามวิธีของครอนบาค เท่ากับ .96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และ การทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีเชฟเฟ ผลการวิจัย พบว่า 1. ครูในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พังงา ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 70.19 ระดับการศึกษาปริญญาตรี ร้อยละ 89.43 มีประสบการณ์สอนน้อยกว่า 10 ปี ร้อยละ 40.39 ระดับชั้นที่ปฏิบัติงานสอน อยู่ในระดับช่วงชั้นที่ 3 (มัธยมศึกษาปีที่ 1-มัธยมศึกษาปีที่ 3) ร้อยละ 41.82 และได้รับการ อบรม การใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551ร้อยละ 69.71 2. ความพร้อมของครูในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาพังงา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก อันดับแรกคือ ด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ รองลงมาได้แก่ ด้านการนำผลการประเมินมาใช้ ด้านการวิเคราะห์ผู้เรียนและกำหนดเป้าหมาย ด้านการประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียน และด้านการเตรียมและเลือกใช้สื่อ ตามลำดับ 3. ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ครูในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพังงา ที่มี เพศ และ ระดับการศึกษา ต่างกัน มีความพร้อม ในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในภาพรวม ไม่แตกต่างกัน ครูที่มีประสบการณ์ในการทำงานต่างกัน มีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ครูที่มีระดับชั้นที่ปฏิบัติงานสอนต่างกัน มีความพร้อมในการจัดการ เรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และครูที่เข้ารับการอบรมการใช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่างกัน มีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .001 This research study investigated and compared teachers’ readiness in organising learning regarding Core Curriculum in Basic Education B.E. 2555 in educational extended schools under Phang- Nga Educational Service Area. A survey method was employed to collect data. A set of questionnaire with a reliability of .96 was distributed to 208 teachers in the area. Data analysis used percentage, mean, standard deviation, t-test, One-Way ANOVA, and Scheffe’s method for multiple comparisons. Three major findings revealed: 1) Seventy point one-eight percent of respondents were mostly female, and 89.43 % of the participants got bachelor degrees. Forty point three-nine percent had less than 10 years’ teaching experience, and 41.82 % taught students in Level 3 (Matthayom Suksa 1-3). However, only 69.71 % of the teachers were trained how to organise the learning regarding the current curriculum of year B. E. 2551. 2) Overall, the teachers were ready at high levels in all aspects. They were: 1) designing of learning organisation, 2) applications of evaluation results, 3) learners’ analysis and setting goals, 4) learners’ progressive evaluation, and 5) materials preparation and selection respectively. 3) Lastly, hypothesis testing showed teachers’ readiness in 4 aspects. Firstly, it was not different for teachers with different sex and education levels though overall it was statistically significant at the level of .01. Moreover, it was statistically significant at the level of .05 concerning the teachers teaching at different levels. Similarly, it was statistically significant at the level of .001 regarding the trained teachers.

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: srinakorn_pan@dusit.ac.th

Name: วรรณวิภา จัตุชัย

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Issued: 2013

Modified: 2556-07-31

Issued: 2556-07-31

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ LB2371 $b อ546 ค2 2555

tha

DegreeName: ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

©copyrights มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Cover.pdf	236.48 KB	52	2023-02-26 00:04:55
2	Abstract.pdf	258.84 KB	64	2021-06-02 08:16:48
3	Acknowledgement.pdf	185.41 KB	33	2025-06-15 13:53:38
4	Table of contents.pdf	253.1 KB	32	2021-06-02 08:17:36
5	Chapter 1.pdf	249.26 KB	67	2025-06-15 14:07:45
6	Chapter 2.pdf	1.11 MB	121	2025-06-15 13:34:05
7	Chapter 3.pdf	293.88 KB	48	2025-06-15 13:37:09
8	Chapter 4.pdf	500.73 KB	57	2021-06-02 08:19:27
9	Chapter 5.pdf	378.27 KB	48	2021-06-02 08:19:46
10	References.pdf	270.51 KB	67	2021-06-02 08:20:17
11	Appendix.pdf	398.6 KB	59	2024-10-22 13:10:30
12	Author.pdf	187.53 KB	33	2021-06-02 08:22:14

ใช้เวลา

0.067478 วินาที