รูปทรงเรขาคณิตเมืองที่ส่งผลกระทบต่อจุลภูมิอากาศเมือง กรณีศึกษาย่านช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่
Urban geometry effects on urban microclimate: the case study of Chang Klan area, Chiang Mai province
Abstract:
ปรากฏการณ์เกาะความร้อนเมือง คือสภาวะที่อุณหภูมิอากาศในเขตเมืองแตกต่างจากพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ชานเมือง โดยเฉพาะย่านศูนย์กลางเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างหนาแน่น รูปทรงเรขาคณิตเมือง (Urban Geometry) หรืออัตราส่วนความสูงอาคารต่อความกว้างถนน นั้นมีผลต่อการไหลเวียนอากาศและการระบายความร้อนในระดับชั้นเรือนยอดของเมือง (Urban Canopy Layer: UCL) การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปทรงเรขาคณิตเมืองและรูปแบบการวางตัวของอาคาร ที่มีอิทธิพลต่ออุณหภูมิอากาศในพื้นที่ย่านช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่ และรูปทรงเรขาคณิตเมืองที่ส่งเสริมการระบายอากาศ ด้วยโปรแกรมจำลองสภาพจุลภูมิอากาศ ENVI-met รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการวางแผนและออกแบบเมือง เพื่อส่งเสริมคุณภาพอากาศที่ดีในพื้นที่ย่านช้างคลาน ผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ย่านช้างคลานในปัจจุบันมีรูปทรงเรขาคณิตเมือง 8 รูปแบบ คือ รูปทรงเรขาคณิตเมือง 0.7, 0.8, 1.0, 1.2, 1.3, 1.8, 2.3 และ 4.5 โดยรูปทรงเรขาคณิตเมืองบนถนนช้างคลาน 1.2 มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำที่สุด ในช่วงเวลา 06.00 - 20.00 น. 35.46 องศาเซลเซียส ความเร็วลมเฉลี่ยสูงที่สุด 0.35 m/s เมื่อพิจารณาถึงสภาวะความสบายเชิงความร้อนปรากฏว่ารูปทรงเรขาคณิตเมือง 4.5 มีช่วงเวลาที่อยู่ในเกณฑ์การยอมรับเชิงความร้อนมากที่สุด เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเงาของอาคารทั้งสองฝั่งของถนนช่วยบดบังรังสีความร้อนจากแสงอาทิตย์ เมื่อปรับปรุงรูปทรงเรขาคณิตเมืองบนถนนช้างคลาน โดยอ้างอิงตามกฎหมายควบคุมอาคารที่มีผลบังคับใช้กับพื้นที่วิจัย ณ. ช่วงเวลาที่ทำการวิจัย โดยทดสอบกับรูปทรงเรขาคณิตเมือง 6 รูปแบบ ประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตเมือง 1.0, 1.3, 1.9, 2.4 และ 2.9 ทั้งแนวถนนทิศเหนือ-ทิศใต้ และทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก พบว่ารูปทรงเรขาคณิตเมือง 1.9 ที่มีอาคารสูง 14.00 เมตร ทั้งสองฝั่งของถนน และถนนกว้าง 14.40 มีอุณหภูมิเฉลี่ย 35.01 องศาเซลเซียส มีศักยภาพในการลดอุณหภูมิอากาศมากที่สุด มีความเร็วลมเฉลี่ย 0.41 m/s แต่ในแง่สภาวะความสบายเชิงความร้อนปรากฏว่ารูปทรงเรขา 2.9 มีช่วงเวลาที่อุณหภูมิสมดุลทางสรีรวิทยาอยู่ในช่วงความยอมรับเชิงความร้อนในฤดูร้อนมากที่สุด การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงรูปทรงเรขาคณิตเมืองและการวางตัวของกลุ่มอาคาร โดยอ้างอิงตามกฎหมายควบคุมอาคาร ช่วยให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพดีขึ้น อุณหภูมิอากาศลดต่ำลง และการเพิ่มพืชพรรณบริเวณทางเดินเท้าสามารถช่วยปรับปรุงสภาวะความสบายเชิงความร้อนให้ดีขึ้นได้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สำนักหอสมุด
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม
Role:
อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม
Role:
ประธานอาจารย์ประจำหลักสูตร
CallNumber:
711.42 ส888ร 2561
©copyrights มหาวิทยาลัยแม่โจ้