แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
รำจวน เบญจศิริ. ความผูกพันในการเรียนออนไลน์ของนักศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง. (). มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด. : , 2565.
ความผูกพันในการเรียนออนไลน์ของนักศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
The engagement in online learning of students: Case study of Ramkhamheang University
Name: รำจวน เบญจศิริ
ThaSH:
ความผูกพัน
ThaSH:
นักศึกษา
Abstract:
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความผูกพันในการเรียนออนไลน์ (Engagement in Online Learning) และใช้ค่าสัมประสิทธ์ทดถอยพหุในการวัดค่าตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อความผูกพันในการเรียนทางออนไลน์ของนักศึกษา ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เรียนทางออนไลน์ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2564 ผลการศึกษามีดังต่อไปนี้ นักศึกษาที่เรียนทางออนไลน์มีอายุโดยฉลี่ย 29 ปี ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชาย คิดเป็นร้อยละ 64.1 นักศึกษาทำงานหารายได้ควบคู่ไปกับการเรียนคิดเป็นร้อยละ 73.5 งานที่ทำส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทหรือลูกจ้างร้านค้า มีรายได้โดยเฉลี่ย 13,000 บาทต่อเดือน การเรียนทางออนไลน์ของนักศึกษามากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 56.7) ใช้โทรศัพท์มือถือในการออนไลน์เข้าเรียน การศึกษาระดับความผูกพัน (Engagement) ในการเรียนออนไลน์ของนักศึกษาพบว่า ความผูกพันในการเรียนออนไลน์มีระดับปานกลาง กล่าวคือ นักศึกษามีการอ่านและติดตามทุกข้อความที่อาจารย์เขียนหรือโพสทางออนไลน์ ติดตามข้อมูลข่าวสารการสอนทางออนไลน์ทุกวิชา มีความพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในการเรียนการสอนทางออนไลน์ มีการออนไลน์เข้าร่วมชั้นเรียนตั้งแต่ต้นจนจบการบรรยาย ทำการบ้านและงานอื่นๆ ที่ได้รับจากการเรียน และเข้าเรียนทางออนไลน์ครบทุกครั้งในทุกวิชาที่มีการลงทะเบียนเรียน ผลวิจัยพบว่า ตัวแปรความตั้งใจจริงในการเรียนออนไลน์ การเข้าถึงในการเรียนออนไลน์ การสอนของอาจารย์ผู้สอน และสัมพันธภาพของนักศึกษากับอาจารย์ เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการเรียนออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีความสัมพันธ์ไปทางเดียวกันกับความผูกพันในการเรียนออนไลน์และสามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงความผูกพันในการเรียนออนไลน์ได้ร้อยละ 45 นอกนั้นสามารถอธิบายได้ด้วยตัวแปรอื่นที่ไม่ได้นำมาศึกษา ในการเปรียบเทียบผลของตัวแปรที่มีต่อความผูกพันในการเรียนออนไลน์พบว่า การเข้าถึงในการเรียนออนไลน์มีผลต่อความผูกพันในการเรียนออนไลน์มากที่สุด รองลงมาคือ การสอนของอาจารย์ผู้สอนทางออนไลน์ สัมพันธภาพของนักศึกษากับอาจารย์ และความตั้งใจจริงในการเรียนออนไลน์ของนักศึกษาตามลำดับ
This is a quantitative research that aims to study the engagement in online learning and use multiple regressions coefficients for determine major variables influencing engagement in online learning of students. Questionnaire is an instrument used in collecting data from Ramkhamheang students who access in online learning during July to September 2021. The findings are as follows: The average age of students who accessed online learning was 29 years, with the majority of them being males. 73.5 percent of students were working during their time at the university, where most were working as employees of companies or workers at shops, with average income at 13,000 baht per month. More than half of the students (56.7 percent) used mobile phones for online learning. The research found the engagement in online learning of the students had moderate level. They read, followed data and news from online teaching in all subjects. They satisfied in participating in the activities of online classes. Students attended the online classes from the start to end of the sessions, completed homework assignments assigned by teachers and attended all classes of registered subjects. In the findings, the intention of student in online study, online access for learning, teaching method of teacher, and student-teacher relationship were significant variables which influenced the engagement in online learning at a statistically significant level. These variables had positive correlation and were explanatory of changes in the engagement in online learning at 45 percent. In comparing the variables influencing the engagement in online learning, the variable of online access for online learning influenced the engagement in online learning at the highest level. Next in descending order were the variables of the student-teacher relationship, teaching method of teacher, and intention of student in online study.
มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด
Address:
ชลบุรี
Email:
buulibrary@buu.ac.th
Created:
2565
Modified:
2565-09-28
Issued:
2565-09-28
บทความ/Article
application/pdf
ISBN:
1906-506X
BibliograpyCitation :
วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย. ปีที่ 14, ฉบับที่ 1 (ม.ค.-มิ.ย. 2565), หน้า 51-71
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.023531 วินาที
รำจวน เบญจศิริ
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| ความคุ้มค่าทางสังคมของการลงทุนสร้างทางเดินลอยฟ้าในกรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยบูรพา รำจวน เบญจศิริ | บทความ/Article | |
| ศักยภาพการเรียนรู้ของนักศึกษาพิการในมหาวิทยาลัยรามคำแหง
มหาวิทยาลัยรามคำแหง รำจวน เบญจศิริ | มหาวิทยาลัยรามคำแหง | งานวิจัย/Research report |
| ความคุ้มค่าทางสังคมในการลงทุนสร้างอุโมงค์สำหรับเดิน : กรณีศึกษาพื้นที่หน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยรามคำแหง รำจวน เบญจศิริ | บทความ/Article | |
| ศักยภาพการเรียนรู้ของนักศึกษาพิการ : กรณีศึกษานักศึกษาพิการที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
มหาวิทยาลัยบูรพา รำจวน เบญจศิริ. | บทความ/Article | |
| การบริโภคอาหารนอกบ้าน: กรณีศึกษา Gen Y ในกรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยบูรพา รำจวน เบญจศิริ | บทความ/Article | |
| ความผูกพันในการเรียนออนไลน์ของนักศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
มหาวิทยาลัยบูรพา รำจวน เบญจศิริ | บทความ/Article |